การแต่งหน้าของสาวจีนโบราณ

การแต่งหน้าของสาวจีนในสมัยราชวงศ์ถัง

          เทรนด์การแต่งหน้านั้นมีมาทุกยุคทุกสมัย ที่มนุษย์เรานั้นเริ่มมีวัฒนธรรม และก็ส่งต่อมาจนถึง             ปัจจุบัน แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย เพื่อให้เข้ากับกาลเวลา  วันนี้เราจะมาทำความ           รู้จักเทรนด์การแต่งหน้าของสาวจีนในสมัยราชวงศ์ถัง ราชวงศ์ที่ถือว่ารุ่งเรืองสุดๆราชวงศ์หนึ่งเลยก็         ว่าได้ สำหรับการแต่งหน้าในสมัยก่อนนั้น ทำเพื่อความสวยงามใดๆ หรือแม้แต่บ่งบอกฐานะ และ                 ฐานันดรของหญิงงาม และในแต่ละช่วงเวลาก็จะมีเทรนด์การทารูปปาก การปัดแก้มไม่เหมือนกัน

ในยุคของการปกครองในสมัยที่เพศหญิงมีอำนาจ ในรัชสมัยของพระนางบูเช็กเทียน บรรทัดฐานของสาวงามคือ ผิวขาวดุจหิมะ โครงหน้าตูมเหมือนดอกบัว

1.การทาแก้ม สาวจีนนิยมทาแก้มให้สวยงามเหมือนก้อนเมฆยามอรุณรุ่ง โดยใช้สีแดงปัด

ตั้งแต่ดวงตา กว้างยาวไปถึงหู และลากลงมาถึงคาง 

2.ฮวาเตี้ยน เทรนด์การทาหรือวาดรูปกลีบดอกไม้บนหน้าผาก ว่ากันว่าในสมัยราชวงศ์หนึ่ง 

มีองค์หญิงองค์หนึ่ง นอนหลับอยู่ใต้ต้นเหมย จนลมพัดกลีบดอกเหมยปลิวมาแปะบนหน้าผากพอดี

 ( แหม อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น ) เวาลาผ่านไป ดอกเหมยหลุด แต่สีจากดอกเหมยยังคงอยู่ แถมล้าง

ไม่ออกอีกต่างหาก สาวๆคนอื่นในวังก็เห็นว่าสวยดี จึ่งเริ่มนำสีมาวาดเป็นดอกไม้บนหน้าผากบ้าง

นี่ก็คือรูปทรงกลีบดอกไม้ต่างๆที่สาวจีนนิยมวาดกัน

3.เย่เตี้ยน จะบอกว่าเป็นการแต่งหน้าก็ไม่เชิง แต่มันคือสัญลักษณ์เอาไว้บอกฮ่องเต้ว่า 

วันนี้มีประจำเดือน โดยการนำสีแดงมาแต้มเป็นที่แก้มทั้งสองข้าง

           4.การเขียนคิ้ว ใช้วัสดุสีดำสำหรับเขียนคิ้วให้ดูเข้ม สำหรับคิ้วที่บางละเอียดและยาว

           เรียกว่า ไต้เหมย  คิ้วที่หนาและใหญ่ เรียกเอ๋อเหมยซึ่งบางครั้งเรียกว่า กว่างเหมย

"คิ้ว" สำหรับชาวจีนคิ้วคือ "สายรุ้งแห่งอารมณ์" ต่างหากค่ะ ซึ่งในแต่ยุคแต่ราชวงศ์

ก็นิยมชมชอบไม่เหมือนกัน อย่างเช่น
- ราชวงศ์ฉิน คิ้วต้องดกดำ ยาวโค้งดั่งคันศร
- ราชวงศ์ฮั่น คิ้วต้องเป็นรูปสามเหลี่ยม
- ราชวงศ์ถัง คิ้วต้องเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว

เวลาที่สาว ๆ ชาวจีนเป็นสิว มักจะต้มแปะฮวยแปขี่เฉ้าจนเดือด
น้ำจะออกมาเป็นสีน้ำตาล จากนั้นก็เทใส่อ่างเทแล้วเอาผ้าขนหนูลงไปชุบขึ้นมาเช็ดหน้า

ขณะที่ยังร้อนๆ เเต่ใช้กันทีต้องใช้เป็นหม้อ ๆ เเละต้องขยันทำทุกวัน